Final FantasyXV Fan Fiction

Title : Used to
Pairing : Gladiolus/Ignis
Rate : NC-17
Note : อ้างอิงเนื้อหาจากอนิเมภาค Brotherhood

ถ้าหากจะให้นิยามแล้วระหว่างพวกเขาจะเรียกว่า ‘ความคุ้นชิน’ ก็คงไม่ผิดนักหรอกมั้ง

ตั้งแต่เริ่มเกี่ยวข้องกับมกุฏราชกุมารแห่งลูซิสพวกเขาก็เห็นหน้าค่าตากันมาโดยตลอด

..ทีละน้อย..ทีละน้อย จากคนที่แค่เคยเห็นหน้า จนถึงความคุ้นชินที่เขาคิดไม่ออกว่าชีวิตที่ไม่มีอีกฝ่ายเข้ามาข้องเกี่ยวนั้นจะเป็นยังไง

………………………………………..

กลาดิโอลัสยืนหาวหวอดพิงกำแพง กำลังรอให้ใครบางคนเดินออกมา หลังจากน็อคทิสเข้าเรียนม.ปลายและขอย้ายไปใช้ชีวิตคนเดียวเขาก็ว่างขึ้นอักโข มากพอๆกับราชเลขาส่วนพระองค์ที่แวะเวียนไปหาแค่สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง

เสียงประตูดังแกร๊ก กลาดิโอ้หุบปากที่อ้ากว้างหันไปมองคนที่ตัวเองนัดไว้เดินออกมาจากการออกแรง ผมสีน้ำตาลซีดจนเกือบทองนั้นชุ่มเหงื่อ วันนี้อิกนิสดูหัวร้อนกว่าปกติ เดาได้ไม่ยากนักว่าคงทะเลาะอะไรบางอย่างกับน็อคทิสมา

เขายื่นมือออกไปจะเกลี่ยเอาปอยผมเปียกชื้นที่ละกรอบแว่นทรงเหลี่ยมของอีกคนออกแต่ก็ถูกเบี่ยงหน้าหลบ

“โทษทีช้านิดหน่อย…ขอไปล้างตัวก่อน”

อิกนิสพูดทิ้งท้ายแล้วหายตัวไปอีก คนตัวใหญ่กว่าได้แต่อือออตามอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะเดินตามเข้าไปรอในห้องฝึกแทน กลาดิโอ้ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นเอนตัวลาดพิงกับกำแพงฟังเสียงน้ำฝักบัว เขาหลับตาลงพลางคิดว่าจะไปกินอะไรกันดี

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงจับพลัดจับผลูมาสนิทกับคนที่แทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลยอย่างอิกนิสได้ จากมุมมองของเขาอิกนิสค่อนข้างจะเป็นคนแปลกอยู่เสียหน่อย จะความจริงจังจนเกินกว่าเหตุ แต่กลับรับมุกตลกของพวกเขาแล้วหัวเราะไปด้วยได้ดีกว่าที่คิดก็ดี หรือการดูแลน็อคทิสที่ลามมาจนถึงเขาไปด้วยนั่นก็ดี

..ถึงอาหารที่หมอนั่นทำจะอร่อยมากก็เถอะ

เสียงน้ำหยุดลง คนรอบิดขี้เกียจแล้วลุกขึ้นยืนมองดูคนที่สวมเสื้อเชิ้ตเนี้ยบกริบกลับออกมาทั้งที่ผมยังหมาด “คิดได้รึยังว่าอยากกินอะไร?” อิกนิสถามขึ้นคว้าเอากุญแจรถออกมาจากกระเป๋ากางเกงพลางเดินไปด้วย

“อะไรก็ได้ที่นายอยากทำ” กลาดิโอ้ตอบกลั้วหัวเราะ ได้ยินเสียงถอนหายใจหน่ายๆเหมือนคิดไว้แล้ว

อิกนิสมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ชวนให้รู้สึกสบายใจ ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้น้ำหอมหรือโคโลญจ์อะไรเป็นพิเศษ ดวงตานิ่งเฉยใต้กรอบแว่นนั้นก็อีก แวบแรกเขาคิดว่ามันเป็นสีฟ้าแต่เมื่อเห็นมันบ่อยเข้ากลับคิดว่ามันอมเขียวมากกว่าที่คิด

…ก็แปลกดี…

คนถูกมองไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ ดูจะชินชาไปเสียแล้ว พวกเขาแวะซื้อของกันนิดหน่อยก่อนจะขับรถตรงไปที่บ้านของกลาดิโอ้ ที่ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่มีใครอยู่

สำหรับอิกนิสการอยู่กับคนสบายๆอย่างกลาดิโอ้ทำให้เขาไม่ต้องเหนื่อยคิดอะไร แถมยังพึ่งพาได้มากกว่าที่คิด เขาจึงเผลอปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตตามน็อคทิสเข้ามาโดยไม่รู้สึกตัว

วันนี้เองก็เช่นกัน ถึงจะบอกออกไปว่าเป็นเมนูใหม่ที่คิดว่าจะทำไปให้น็อคทิสกินคราวหน้า แต่เอาเข้าจริงแล้วเขาก็ซื้อวัตถุดิบที่กลาดิโอ้ชอบมาทำให้อยู่ดี แม้อีกคนจะไม่ทันได้สังเกตก็ตาม

คนตัวใหญ่ถือของเข้าไปให้ในบ้านระหว่างที่อีกคนเทียบจอดรถ เขาวางถุงลงบนเคาเตอร์ครัว รื้อเอาของที่อยู่ข้างในออกมาวางเรียงให้อย่างสบายอารมณ์ รอให้อิกนิสตามเข้ามาจัดการให้ทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่าง

กลิ่นเนื้อในกระทะทำให้เขาอดน้ำลายสอขึ้นมาไม่ไหวจริงๆ จะยื่นมือไปหยิบอีกคนก็คงนาบตะหลิวร้อนๆใส่มือให้เขาด้วยความเต็มใจแหงๆ “…วันนี้ดื่มเหล้ากันหน่อยมั้ย?”

คนถูกถามเลิกคิ้ว ไม่ได้ละสายตาขึ้นจากของที่ทำอยู่ตรงหน้า “ถ้ามีอยู่ก็เอาแล้วกัน..”

กลาดิโอ้ลุกพรวดหนีกลิ่นอาหารไปหยิบเอาทั้งเบียร์และไวน์ออกมาตั้งบนโต๊ะอาหาร วางเรียงจนแทบจะกลายเป็นปิรามิดขนาดย่อม

“ทำอะไรน่ะ?” คนถามถือจานอาหารเดินตามมาที่โต๊ะ หัวคิ้วมุ่นเข้ากับทาวเวอร์เบียร์กระป๋องตรงหน้า “ดื่มเยอะขนาดนั้นไม่ไหวหรอกนะ”

ว่าแบบนั้นแต่มือเพรียวยาวนั่นก็คว้าเอากระป๋องหนึ่งจากยอดมาเปิดดื่มแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับโต๊ะ “กินกันเถอะ”

………………………………………..

เรื่องสัพเพเหระระหว่างมื้ออาหารย้ายสารร่างของพวกเขากับบรรดาเบียร์กระป๋องมานั่งกองอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี พอเริ่มดื่มมากเข้าอิกนิสก็เริ่มบ่นกระปอดกระแปดถึงการทะเลาะกับน็อคทิสให้ฟังจนได้

กลาดิโอ้รับฟัง เขาไม่ได้แนะนำอะไรเป็นพิเศษเพียงแค่รับฟังอย่างเข้าใจ เพราะรู้ว่าอิกนิสไม่ได้ต้องการวิธีแก้ไขปัญหา ในบรรดาพวกเขาอิกนิสเป็นคนที่หาทางออกได้ดีที่สุดเสมออยู่แล้ว พอเหล้าเข้าปากมากเข้าร่างที่ทิ้งแนบกับโซฟาก็เริ่มจะเอน กลาดิโอ้หันไปมองอีกคนดึงเบียร์กระป๋องที่จวนจะหกแหล่มิหกแหล่ออกจากมือ “ระวังหก”

อิกนิสรู้สึกตัวขึ้นมา เขายันตัวขึ้นพึมพำขอโทษในคอใบหน้าดูง่วงงุนได้ที่ กลาดิโอ้ใช้มือช่วยถอดแว่นสายตานั้นออกให้ แต่อะไรบางอย่างก็ดลใจให้เขาสงสัยขึ้นมาว่าแว่นที่แนบติดอยู่กับใบหน้าของอีกคนตลอดนั่นจะสั้นซักเท่าไหร่

“เอาคืนมา”

“ยืมแป๊บนึงสิ” เขาว่าตอบ ลองสวมมันเข้าจริงๆแล้วก็ถอดออกแทบไม่ทัน “ไม่มีแว่นนี่นายมองเห็นอะไรบ้างเนี่ย?”

“…ไม่เห็น” อิกนิสหยีตาเพ่งมองหน้าคนขโมยแว่น เขาเอี้ยวคร่อมตัวอีกคนเอื้อมมือไปหาแว่นของตัวเอง ใบหน้าของพวกเขาห่างกันแค่คืบและใบหน้าคมสันนั้นก็หันมาพอดี

“ใกล้เท่านี้มองเห็นมั้ย?”

“เห็น… พอใจรึยัง?” คนตอบมุ่นหัวคิ้วมองตอบดวงตาสีน้ำตาลแดงนั่นในระยะประชิด อะไรบางอย่างทำให้เขาหงุดหงิดมากๆขึ้นมา

ริมฝีปากตรงหน้าก็ขยับพูดขึ้นอีก มันใกล้เสียจนรู้สึกได้ว่าลมหายใจนั้นไล้อยู่บนใบหน้าของเขา หากสิ่งนั้นก็ยังไม่รบกวนใจได้มากเท่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา “ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว..ไม่ลองจูบกันดูหน่อยเหรอ”

ลมหายใจสะดุดกึก ช่องว่างระหว่างพวกเขาชิดลงจนชวนให้สงสัยว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายเคลื่อนเข้าหาก่อน ริมฝีปากชื้นเหล้าที่แนบเข้ามาเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์

กลาดิโอ้ไม่ได้หลับตาลง เขามองดูใบหน้ากระอักกระอ่วนแต่ไม่ใช่ในเชิงปฏิเสธเสียทีเดียวนั้นแล้วสวมแว่นกลับคืนให้อีกฝ่ายทั้งๆที่ไม่ได้ละริมฝีปากออก ขนตาสีอ่อนทิ้งเงาลงบนแก้มที่ซับสีเข้มขึ้น

อิกนิสกำลังรู้สึกเสียศูนย์ และกลาดิโอ้ก็รับรู้ได้ อีกฝ่ายมักเป็นแบบนี้เสมอเมื่อสิ่งที่คาดการณ์ไว้ไม่เป็นไปตามที่คิด ส่วนเขากำลังรู้สึกสนุกกับความกระอักกระอ่วนของใบหน้าที่เรียบเฉยอยู่เสมอนั้น

…และพอใจมากขึ้นอีกเมื่อคิดว่าจะมีแค่เขาเท่านั้นที่รู้…

ริมฝีปากแนบชิดมากขึ้น เขาผละริมฝีปากให้อีกคนได้ตะครุบเอาอากาศหายใจแล้วย้ำสัมผัสซ้ำลงไปอีก ปลายลิ้นเหลวดันเข้าในโพรงปากที่เผยออ้า ร่างช่วงบนของอิกนิสสะดุ้งวาบแผ่นอกของเขาจึงแนบสีเข้ากับร่างของคนตรงหน้าอีกโดยไม่รู้ตัว เมื่อดวงตาของเขาปรือขึ้นอีกทีท้ายทอยก็ถูกมือหยาบใหญ่นั้นล็อกเอาไว้เสียแล้ว

…อะไร…

แอลกอฮอล์ทำให้สมองประมวลผลอะไรได้น้อยกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีกแม้จะไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังเมามากมายอะไรก็ตาม ลมหายใจพรูออกจากริมฝีปาก ปลายลิ้นของตัวเองกำลังถูกลิ้นของอีกคนฉกรัด เขาไม่ได้ร้องไห้แต่รู้สึกเหมือนมีน้ำตามากองเสียจนภาพตรงหน้าพร่ามัว เขายกมือขึ้นคั่นระหว่างตนกับแผงอกที่แนบชิดเข้ามา …แย่แล้ว…

กลาดิโอ้เก็บเอารสสัมผัสนั้นอย่างฉวยโอกาส …มากกว่านี้ อยากจะเห็นมากกว่านี้…

“มากกว่านี้..ได้มั้ย?”

หนวกหู…

อิกนิสพูดสวนและตระหนักได้ทันทีว่านั่นเป็นคำตอบที่ผิดพลาดอย่างมากเมื่อร่างถูกดึงขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนหน้าขาแข็งแรง

มือเรียวเกร็งแน่นดันค้ำอยู่บนไหล่กว้าง กลาดิโอไม่ได้ตีความว่านั่นเป็นการปฏิเสธ อิกนิสที่เขารู้จักนั้นอาจมีท่าทีปฏิเสธจำนวนมาก แต่นี่ไม่ใช่หนึ่งในท่าทางเหล่านั้น เขาล้วงมือเข้าใต้ชายเสื้อเชิ้ตที่เคยเรียบกริบลูบสัมผัสผิวตึงแน่นอย่างจาบจ้วง

ถึงตรงนี้แล้วราชเลขาส่วนพระองค์ก็ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา เขาไม่รู้ว่า ‘มากกว่านี้’ ของคนตรงหน้าหมายถึงอะไร รวมถึงไม่รู้ว่ามากถึงขั้นไหน เขาคิดว่าตัวเองควรจะปฏิเสธก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปไกลมากกว่านี้ แต่อะไรบางอย่างก็บอกเขาว่าไม่

ฐานคอถูกขบกัด เสียงครางต่ำหลุดออกจำคอที่แอ่นเชิด รู้สึกว่าส่วนหน้าอกของตนนั้นเย็นวาบ เมื่อลืมตามองดีๆถึงได้รู้ว่ากระดุมเสื้อนั้นถูกปลดออกจนหมดแล้วซ้ำร่างของเขายังถูกดันให้เอนลงเสียจนต้องทิ้งตัวกับโซฟา “ย..อย่า”

เรียวนิ้วจิกขยุ้มเรือนผมสีเข้มของคนที่ซุกแนบใบหน้าต่ำลงเรื่อยๆเหมือนจะบอกให้หยุด เสียงเหล็กกระทบดังขึ้นเบาๆจากเบื้องล่างใบหน้าเขาก็ยิ่งร้อนผ่าวขึ้นไปอีก

“..ไม่.. …..กลาดิโอ้”

เจ้าของชื่อฝังรอยฟันเข้าที่สอบเอว อีกคนสะดุ้งจนแผ่นหลังแอ่นคอด ขอบกางเกงที่กำลังถูกร่นลงนั้นทำให้อะไรบางอย่างชัดเจนมากขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมองตอบคนปฏิเสธด้วยคำถาม “หยุดตอนนี้จะดีแล้วเหรอ?…”

คำพูดถูกเว้นช่วง มือละออกจากขอบกางเกงมายังสิ่งที่กำลังมีปฏิกิริยาชัดเจนที่เบื้องหน้า “..ทั้งฉัน …แล้วก็นาย?”

อะไรบางอย่างในดวงตาสีน้ำตาลแดงนั่นทำให้คนมองต้องกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น “ถ้างั้นก็..รีบๆเข้.า”

เหมือนได้รับอนุญาตกลาดิโอ้กระชากดึงทั้งซับในและกางเกงที่ขวางสายตานั้นไปกองทิ้งไว้ที่ข้อเข่า สะโพกสอบถูกรั้งขึ้นจนบั้นท้ายแนบติดกับหน้าขาของคนที่ขยับขึ้นมาคร่อมอยู่ด้านบน แม้จะมีเสื้อผ้าปกปิดไว้แต่ความแข็งขืนนั้นก็ดุนดันชัดเจนจนใบหน้าร้อนผ่าว

อิกนิสกระถดตัวหนี แต่มือที่ล็อกอยู่ที่เอวไม่ยอมให้ทำแบบนั้น การเสียดสีโดยเปล่าประโยชน์นั้นจึงดูจะเป็นแค่การทำให้อีกฝ่ายรู้สึกมากขึ้นไปอีกเสียแทน

เขาเม้มริมฝีปากแน่นขึ้นอีกเมื่อใบหน้าคมสันนั้นโน้มลงมาด้วยสีหน้ายียวน ขาของเขาโดนดันเสียจนแทบจะแนบติดแผ่นอก ใบหน้ารู้สึกร้อนขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองโดนบังคับให้อยู่ในท่วงท่าที่น่าอายขนาดไหน

ทันทีที่มือหยาบละจากแผ่นท้องไปสัมผัสแกนกายอิกนิสก็หลุดเสียงครางขึ้นในคอ คนด้านบนดูจะพึงใจขึ้นอีก ก่อนจะลูบสำรวจมันอย่างย่ามใจ

“รู้สึกไวทีเดียวนะ” กลาดิโอ้หยอก แน่นอนว่าต้องการเห็นสีหน้าทำอะไรไม่ถูกของอีกคนมากกว่านี้ แต่เขาอาจจะลืมคิดไปว่าอิกนิสไม่ใช่คนที่จะยอมอะไรง่ายๆไปได้โดยตลอด

ราชเลขาใช้เท้าถีบเข้าที่หน้าท้องของอีกคนดังอัก ไม่แรงนักแต่ก็มากพอที่จะทำให้ร่างที่คร่อมแนบอยู่นั้นต้องผงะตัวออกไปนั่งกุมท้อง คนถีบสลัดกางเกงที่กองอยู่ที่ข้อเข่าทิ้งไปอย่างรำคาญ ปลายเท้าเปลือยเปล่าข้างหนึ่งยันไหล่อีกคนไว้ให้นั่งขึ้นหลังตรง ในขณะที่อีกข้างลากจากแผ่นอกไล่เรื่อยลงมายังขอบกางเกงและส่วนกลางกาย

“เลิกพูดเหมือนมีแค่ฉันที่รู้สึกอยู่คนเดียวได้แล้ว..” นิ้วเท้าเกี่ยวเอาทั้งขอบกางเกงและซับในของคนตรงหน้าลงในคราวเดียว รู้สึกยอมรับไม่ได้ที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างขึ้นมา เท้าของเขาสัมผัสแก่นกายนั้นอย่างตั้งใจ ความชื้นระอุนั้นทำให้รู้ได้ไม่ยากเลยว่าอีกคนก็ไม่ได้ต่างกับเขานักหรอก

กลาดิโอ้มองดูคนที่กลับมาตั้งตัวติดได้อย่างรวดเร็วด้วยสีหน้ากึ่งทึ่งกึ่งแปลกใจ มือที่คาอยู่บนท่อนขาเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายถูกจับไปกอบกุมส่วนสำคัญที่ยังไม่ได้รับการปลอบประโลมเสียทีนั่น

“จะทำอะไรก็รีบๆทำซักที..”

คนที่เหลือแค่เชิ้ตบางๆติดตัวนั่นพูดขึ้นอีก คนฟังนึกไม่ออกเลยจริงๆว่าอะไรดลใจให้อีกคนกล้าหาญขึ้นมา …หรือจริงๆแล้วจะไม่เข้าใจกันนะ?…

จะอะไรก็ช่างตอนนี้เส้นความยับยั้งบางๆของเขาได้ขาดลงแล้วเพราะคำพูดนั่น เขาถอดเสื้อของตัวเองทิ้ง จับแยกขาเปลือยเปล่าที่ซุกซนอยู่บนร่าง จับให้มันกระหวัดอ้อมเอวของเขา แนบชิดมากพอที่แกนกายของพวกเขาจะเสียดสีกัน ร่างท่อนบนเอี้ยวคร่อมขึ้นเหนือตัวอีกฝ่าย ดวงตาของพวกเขาสบกัน

“จะมาเสียใจกับสิ่งที่พูดทีหลังไม่ได้ล่ะ” ดวงตาสีน้ำตาลแดงวาวโรจน์ ไม่รู้ว่าเจ้าของดวงตาสีเขียวที่ดูงุนงงนั่นเข้าใจมันมากแค่ไหน แต่เขาไม่ได้คิดจะรอคำตอบแล้ว เขางับใบหูนั้นด้วยปลายฟัน ก่อนจะบดจูบกับริมฝีปากที่เผยออ้าอย่างโหยกระหาย

คราวนี้เป็นเขาบ้างที่เป็นฝ่ายบังคับให้มือนั้นมาสัมผัสส่วนสำคัญของเขาทั้งคู่ ของเหลวเปียกลื่นไหลเปื้อน กลาดิโอ้เคยคิดไว้ว่าจะไม่ทำจนถึงที่สุด แต่ตอนนี้กลับไม่เข้าใจว่าตัวเองมีความคิดบ้าๆนั่นขึ้นมาได้ยังไง โดยที่ไม่ยอมละจูบออก เขาใช้มือที่เปรอะไปด้วยของเหลวเลื่อนลงไปแตะสัมผัสช่องทางอุ่นร้อน อิกนิสมุ่นหัวคิ้ว เอวของเขาบิดขึ้นน้อยๆแต่ไม่อาจทำอะไรได้มากเมื่อโดนทิ้งน้ำหนักใส่แถมยังโดนบังคับมือเอาไว้อีก

เป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกนักอีกครั้งของราชเลขา เมื่อนิ้วที่คลึงวนอยู่ที่ปากทางนั้นล่วงเข้ามาในกาย ร่างของเขาสั่นขึ้นมาจนริมฝีปากที่ประกบกันอยู่นั้นผละออกจากกัน “ฮะ…ย..หยุดก่อน”

“บอกให้ ‘รีบๆ’ ไม่ใช่เหรอ?” คนด้านบนทวนคำด้วยเสียงหอบพร่า ช่องทางอุ่นนุ่มที่ตอดรัดนิ้วของเขาอยู่นั้นชวนให้นึกอยากแทนที่มันด้วยสิ่งอื่นเสียตอนนี้เลย

แกนกายที่อยู่ในอุ้งมือเพรียวยาวนั้นถูกบีบแน่นขึ้นเมื่อเขาดุนดันช่องทางนั้นด้วยนิ้ว ยิ่งลึกขึ้นลมหายใจของคนด้านล่างก็ยิ่งสะดุดขาด จนถึงตอนนี้อิกนิสก็ยังไม่ได้ปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาด ดวงตาชื้นน้ำที่แฝงแววโกรธเคืองเล็กน้อยเพราะถูกขัดใจนั้นเหมือนกำลังเรียกร้องให้เขาก้มลงไปแนบจูบซ้ำๆ คราวนี้ฝ่ายนั้นตอบรับจูบของเขาเป็นอย่างดี ลิ้นอุ่นเหลวกระหวัดตอบ ลำคอนั้นเชิดแอ่น เปลี่ยนริมฝีปากให้อยู่ในมุมที่พวกเขาะรู้สึกถึงกันได้มากขึ้น

ผิวหนังอุ่นนุ่มนั้นเริ่มเปียกลื่นจากของเหลวที่นิ้วมือของเขา กลาดิโอ้พบจุดอ่อนไหวในช่องทางนั้นจากการสั่นกระตุกและเสียงคราวนุ่มหูที่ลอดออกจากลำคอ เขาไม่แน่ใจนักว่าช่องทางนั้นพร้อมแค่ไหน เพราะเอาเข้าจริงสำหรับเขาเองนี่ก็นับได้ว่าเป็นครั้งแรกกับผู้ชายด้วยกัน

…แต่มันอดรนทนไม่ไหว…

มือหยาบถอนออกช้อนเอวสอบให้ลอยขึ้นเหนือเบาะโซฟา อิกนิสมองตอบด้วยสายตาพร่าเบลอปนงุนงง ก่อนที่แรงกดจากเบื้องหลังจะทำให้สติสัมปะชัญญะแจ่มชัดขึ้น มือของเขาละไปยังแกนกายใหญ่โตที่กำลังจ่ออยู่ที่ปากทางสั่นเกร็ง “ไม่..ไม่ไหวหรอ.ก”

เสียงห้ามเครือสั่นแค่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองปลุกเร้าอยู่ในมือเมื่อครู่จะรุกเข้ามาในส่วนของร่างกายที่แม้แต่แค่นิ้วมือเข้ามายังสั่นเกร็งเสียขนาดนั้น ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ

เป็นกลาดิโอ้บ้างที่ส่งเสียงขัดใจในลำคอ “..มาห้ามตอนนี้ ..ไม่ใจร้ายไปหน่อยรึไง..” ใบหน้าของเขาแนบลงกับลาดไหล่นั่น พรูลมหายใจหอบปะทะผิว สะโพกของเขาแนบลงไปอย่างเชื่องช้าด้วยท่าทีเหมือนกำลังขออนุญาต

อิกนิสฟังเสียงตัดพ้อกับท่าทางนั่นแล้วก็ต้องชั่งใจอย่างหนัก ก่อนสองมือจะช้อนเอาใบหน้าคมคร้ามที่ซุกแนบอยู่กับไหล่นั้นขึ้น “..นายนี่มันหนวกหูจริงๆ”

แว่วเสียงด่าพร้อมกับการถูกกัดที่ปลายคาง ดวงตาสีน้ำตาลแดงเบิกขึ้นอย่างงงๆ รู้สึกได้ว่าสะโพกที่กำลังกระถดหนีในทีแรกนั้นกำลังเป็นฝ่ายเบียดเข้าหาเขาเสียเอง เขาไม่ได้เอ่ยถามเพราะฝ่ายนั้นไม่อนุญาต ริมฝีปากถูกเบียดย้ำเข้ามา มันดูเงอะเงิ่นแต่ก็ปลุกเร้าเขาได้มาก เขาดันกายแทรกเข้าไปในช่องทางนั้น คิ้วของคนตรงหน้ามุ่นขมวดหนัก เพราะร่างกายเชื่อมถึงกันเขาถึงรู้สึกได้ชัดว่าอิกนิสพยายามอย่างมากที่จะผ่อนคลาย มือที่ล็อกใบหน้าเขาอยู่ตกร่วง มันจิกเบาะจนขึ้นข้อขาว มองดูท่าทางนั้นแล้วเขาก็ได้แต่พึมพำขอโทษในใจก่อนจะแทรกกายเข้าไปจนสุดในทีเดียว

เสียงกรีดร้องในคอดังไม่เป็นภาษา แกนกายที่เจียนระเบิดนั้นถะถั่งของเหลวสีขุ่นออกมาจนเปื้อนไปทั่วหน้าท้อง ผิวสะท้านสั่น ใบหน้าก่ำแดงนั้นหอบเหนื่อย เปลือกตาแทบจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้ว

“นี่.. อย่าเพิ่งหลับสิ” กลาดิโอ้ทัก น้ำเสียงนั้นขาดพร่าพอกันจากแรงบีบรัด เขาใช้มือค่อยๆกระตุ้นความต้องการที่สงบลงแล้วนั้นขึ้นมาใหม่อีกครั้งอย่างใจเย็น

“อึก..” อิกนิสยกหลังมือขึ้นปิดปาก “ข..ขอพั..กก่อน.. ฮะ” เสียงห้ามอู้อี้ฟังแทบไม่ได้ใจความ

“..เฮ้ๆ จะให้ฉันค้างอยู่แบบนี้เหรอ..” เค้นเสียงลอดลำคอ สะโพกค่อยๆเคลื่อนออกเหมือนต้องการให้อีกคนรู้ว่าแค่นี้เขาก็แทบคลั่งแล้ว

คนถูกถามไม่ยอมตอบเขาเบือนหน้าหนี ข่มกลั้นเสียงด้วยการกัดหลังมือตัวเอง แต่มันก็ลอดออกมาอีกจนได้เมื่อจุดอ่อนไหวในร่างกายถูกสัมผัสโดยไม่ได้ยินยอม ลมหายใจหอบพร่า ความต้องการที่มอดลงไปแล้วมวนขึ้นในท้องน้อยอีกครั้งอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะเป็นถูกกระตุ้นในช่วงที่ร่างกายกำลังไวต่อสัมผัส เขาพยายามหาเหตุผลมารองรับหรือไม่ก็พยายามคิดไปถึงอย่างอื่นเมื่อคนบนกายนั้นดูจะพยายามสร้างเรื่องให้เขาเสียเหลือเกิน

จากท่าทางบ่ายเบี่ยงที่อีกคนเริ่มแสดงออก แน่นอนว่ากลาดิโอ้ไม่มีทางปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น เวลานี้ที่ควรจะมีแค่เขาที่ได้ครอบครอง สิ่งที่จะอยู่ในหัวของอิกนิสได้ก็ควรจะมีแต่เรื่องของเขาเท่านั้น เขาถอนสะโพกออกและฝังร่างกลับเข้าไปใหม่ จงใจให้กระเทือนจุดที่อีกคนจะรู้สึกได้มากที่สุด

“มองหน้าฉันหน่อยสิ…” เขาเอ่ยขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้หยุดขยับกาย พลางดึงมือที่อีกคนขบเสียจนเป็นรอยจ้ำเลือดออก “..นายอยู่กับฉัน ..ตอนนี้”

“…อ๊ะ” เสียงเครือดังขึ้นเมื่อไม่มีอะไรจะนำมากั้นเสียงได้อีก อีกคนดูจะเอาแต่ได้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกในวันนี้ เขาจ้องคนเอาแต่ใจตอบด้วยสีหน้าไม่ใคร่พอใจนัก แต่กลับได้รับรอยยิ้มพอใจเหมือนเด็กๆเล่นเอาเขาทำสีหน้าไม่ถูกอีกรอบ

“….พูดอะไรงี่เง่า” เขาพูดได้เพียงแค่นั้นเพราะการกระแทกที่ลึกเข้ามานั้นเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นเสียงน่าอายที่เขาจะไม่ยอมให้มันดังขึ้นอีก ได้แค่คาดโทษคนข้างบนผ่านทางสายตา

…ไม่เข้าใจว่าทำให้เขาไม่พอใจได้นี่มันน่าดีใจตรงไหน?…

ใบหน้าด้านบนใกล้เข้ามากว่าทีแรก คางของเขาถูกงับกัด ตามด้วยใบหู ลำคอ และแอ่งชีพจร ความคับแน่นที่กระแทกกระทั้นอยู่ในช่องทางทำให้เขารู้ว่ามันจวนเจียนเต็มที อิกนิสไล้ปลายนิ้วตามแผ่นอกตึงแน่นลากลงไปยังท้องน้อยเหมือนจะเร่งเร้าให้อีกคนรู้ว่าเขาเองก็เช่นกัน

กลาดิโอ้เร่งเร้าความต้องการที่ตัวเองกอบกุมไว้ในมือไปพร้อมๆกับความเร็วของสะโพกที่กระชั้นขึ้น ขาเปลือยเปล่านั่นกระหวัดเกี่ยวสะโพกเขาไว้แน่น เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าหยดเหงื่อบนผิวนั่นเป็นของเขาหรืออีกคนกันแน่

เมื่อความต้องการใกล้จะถึงจุดเสียงครางที่ถูกกลั้นไว้ก็ถูกปล่อยให้ลอดออกมา อิกนิสดึงใบหน้าของเขาขึ้นไปจูบอีกครั้งด้วยตัวเองคล้ายทำไปโดยไม่รู้สึกตัว สะโพกนั้นเบียดจนแกนกายของเขาแทรกเข้าไปลึก ตอดรัดเอาไว้แน่นจนเขาเองก็ทนไม่ไหว เขาบีบรัดแกนกายอีกนด้วยมือข้างหนึ่ง และประคองสะโพกนั้นไว้ด้วยมืออีกข้างบังคับให้รองรับของเหลวที่ปล่อยออกมาเสียจนเต็มตื้น

ท้องน้อยของร่างเบื้องใต้กระตุกสั่น เสียงครางสูงดังเครือผ่านริมฝีปากที่ยังไม่ได้แยกออกจากกัน ก่อนที่มือหยาบใหญ่จะเปรอะไปด้วยสิ่งที่ถูกปล่อยออกมาในที่สุดเช่นกัน

อิกนิสพรูลมหายใจ คราวนี้เขาแทบประคองสติเอาไว้ไม่ได้จริงๆแล้ว ได้แต่ปล่อยให้อีกคนจัดการที่เหลือเอาตามใจ ปฏิกิริยาเดียวที่เขาจำได้ว่าตัวเองทำลงไปคือร่างกายที่สั่นเทิ้มขึ้นน้อยๆเมื่อสิ่งที่ฝังอยู่ละออกไปจากช่องทาง

………………………………………..

กลาดิโอ้เก็บกวาดทุกอย่างอย่างรวดเร็ว หลังจากแน่ใจว่าไม่มีอะไรที่ชวนน่าสงสัยเหลืออยู่ก็หอบเอาร่างของคนกึ่งหลับกึ่งตื่นไปยังห้องของตัวเองเช็ดทำความสะอาดส่วนที่ทำได้ให้

พอออกแรงฤทธิ์เหล้าก็ซาลง เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเมื่อตื่นมาอีกทีทุกอย่างจะยังเป็นเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า เขาไม่ได้เสียใจกับเรื่องที่ทำลงไป..แค่ไม่แน่ใจก็เท่านั้น

สำหรับเขาเรื่องนั้นอาจไม่เป็นปัญหาเท่าอิกนิสที่ดูจะต้องการทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้เสมอ หากเข้าหน้ากันไม่ติดอิกนิสคงกระอักกระอ่วนน่าดู.. ซึ่งเขาก็ไม่อยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่คิดหน้าคิดหลังนี่มาทำให้อะไรที่มีมาโดยตลอดนั่นเปลี่ยนไป

แค่คิดก็ชวนกลัดกลุ้ม แต่ดูจะดำเนินไปได้ไม่นานนักเมื่อคนบนเตียงครางอือ หัวคิ้วนั่นมุ่นหนักก่อนเปลือกตาจะเปิดขึ้น

ดวงตาสีเขียวเพ่งมองหน้าเขา คำแรกที่หลุดออกมาไม่ใช่คำปรามาสแต่เป็นเสียงขุ่นๆที่ถามว่า “กี่โมงแล้ว?…

“ต..ตีสอง”

หัวคิ้วนั่นมุ่นหนักขึ้นอีก มองดูผ้าห่มบนตัว มองดูเสื้อผ้าที่เขาพาดไว้อย่างเรียบร้อยพอควรที่เก้าอี้ มองแว่นตาที่วางไว้บนหัวเตียงแล้วพูดขึ้นอีก “แล้วนายไม่นอนหรือไง?”

“…เดี๋ยวไปนอนห้องอื่น” ไม่รู้ว่าเขาตอบผิดตรงไหนหัวคิ้วนั่นถึงได้ไม่คลายเลยซักนิด อิกนิสพลิกตัวนอนหงาย คงรู้สึกแล้วว่าใต้ผ้าห่มนั้นร่างกายตัวเองไม่มีเสื้อผ้าซักชิ้นติดอยู่ถึงได้ส่งเสียงครางต่ำๆอย่างไม่พอใจในคอ

“แสบตา…” ดวงตาสีเขียวเพ่งมองไฟบนเพดานก่อนจะขยับตัวไปด้านข้างเว้นที่มากพอบนเตียง “ปิดไฟแล้วนอนได้แล้ว..”

คนฟังงงขึ้นมาจึงได้แต่นั่งนิ่งตาไม่กระพริบอยู่ที่เดิม

“ฉันพูดอะไรเข้าใจยากนักรึไง?” พูดเสร็จก็พลิกตัวนอนต่อเหมือนไม่อยากจะเสวนาเพิ่มเติม คนตัวโตได้แต่ปิดไฟแล้วก้าวขึ้นไปนอนที่ที่ว่างบนเตียง

“อิกนิส..”

“มีอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ ฉันมีประชุมตอนเช้า” คนพูดหาวหวอดฝังใบหน้ากับผ้าห่ม

“..พรุ่งนี้ฉันว่าจะแวะไปหาน็อค”

“ขับไปส่งฉันก่อน…”

เขาไม่ได้ว่าอะไรต่อรู้สึกสบายใจขึ้นมาแบบแปลกๆกับบทสนทนาเรียบง่ายนั่น ..บางทีอิกนิสก็ปล่อยให้อะไรผ่านไปได้ง่ายจนเขาคาดไม่ถึงจริงๆ

“มีใครเคยบอกมั้ยนะว่านายประหลาด?”

“นายไง”

กลาดิโอ้หัวเราะในคอกับคำตอบนั้นปล่อยให้อีกคนนอนต่อไปตามใจ

…พรุ่งนี้ค่อยว่ากันนั่นแหละ…

=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-

เริ่มแบกาวๆและจบแบบกาวๆ ความบาปช่างน่าอาย อ่านแล้วอย่าเอ็ดไปนะคะ จุ๊ๆ O[—–[

6 thoughts on “[FFXV Gladiolus/Ignis] Used to

  1. ด้วยความที่คู่นี้เคมีโคตรเข้ากันมุดๆเลยทำให้เรามาตามหาฟิคคู่นี้ แล้วก็เจอเรื่องนี้เข้าค่ะ
    เอื้ออออออออ โพชั่นก็เอาไม่อยู่แล้ว ณ จุดนี้ ขอเมก้าฟีนิกซ์หนึ่งที่ค่ะ อร่อกกกกกก ร้อนแรงเหลือเกิน อิกกี้ของบ่าวคือที่สุด O<–<
    มันมีความกลาดิโอ้และอิกนิสมาก คาแรกเตอร์ไม่ผิดไปจากที่คิดและชอบเลย ห้าวกันตามสไตล์ราชองครักษ์กับขรึมสไตล์ราชเลขา ทั้งคู่ยังเหมือนทำอะไรตามใจตัวเองนะ แต่วิธีจัดการรับมือดูโปรและจัดการความรู้สึกตัวเองได้โอเคเลยแหละ คนนึงเถรตรงมาก ส่วนอีกคนก็ดันไม่ห้ามให้เด็ดขาด เออ ไปกันได้ล่ะสองคนนี้ 55555
    อ่านแล้วรู้สึกแบบ…อื้ม! คู่พี่ใหญ่นี่สมกับที่เป็นคู่พี่ใหญ่เลยนะ! ขอบคุณสำหรับฟิคสนุกๆค่ะ 😆

    1. ฮูๆๆๆๆ อิกกี้คือที่สุดจริงๆค่ะ ไม่ไหวแล้ว ดีใจที่ชอบนะคะ.////////////.

  2. โมเม้นเมื่ออ่านจบ
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด //ปาดเลือดออกแทบไม่ทัน ดาเมจ9999+ รุนแรงมาจนคนอ่านนอนจมกองเลือดตาย อะเฮื้ออออออ
    #ขอบคุณไรท์มากที่แต่งมาให้อ่านกันนะฮะ

  3. อ๊าาาาาา วิญญาณข้าาาาาาา ถูกฟิคนี้ดูดไปแล้ว อ่านแล้วให้ความรู้สึกแบบ “จะละลายละซี่” มากเลยค่ะ ชอบมั่กๆ อยากให้มีอีกด้วย แต่เข้าใจนะคะ ว่ามันลำบากเพราะงั้นเราจะมโนต่อเองค่ะ— ขอบคุณมากมายทำหรับความฟินนี้

    1. แก่แล้วไม่มีแรงแต่งฟิคยาวๆเลยค่ะ แต่งได้แต่แบบกาวๆ 555555 แต่ก็ดีใจที่ชอบนะคะ.////. ไว้มีโอกาสจะเขียนตอนอื่นเพิ่ม555

Leave a comment